กล่าวถึง When a Wolf Falls in Love with a Sheep
When a Wolf Falls in Love with a Sheep
When a Wolf Falls in Love with a Sheep เมื่อหมาป่าตกหลุมรักแกะ
นี่คงเป็นหนังรักเรื่องแรกที่ผมดูโดยเป็น subtitle ภาษาอังกฤษ
อันที่จริงผมไม่ได้จะโชว์เหนือ โชว์เทพ อยากจะฝึกภาษาอังกฤษอะไรหรอกนะครับ เพียงแต่ว่ามันหาที่เป็นภาษาไทยดูไม่ได้จริง
ผมเชื่อว่าน่าจะมีแผ่นขายนะ แต่ไอ้เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าผมดูจากช่องทางไหน
ผมรู้จักหนังเรื่องนี้ตอนช่วงเวลาเมื่อ
2 เดือนก่อน ช่วงที่ผมกำลังรู้สึกอินดี้กับชีวิต
อยากจะหาสัจธรรมให้ชีวิต อยากจะดูหนังดีๆสักเรื่อง อยากจะมองมุมมองใหม่ๆ
สิ่งที่ผมทำเป็นประจำคือการค้นหาหนังใหม่ตามเว็บดูหนังต่าง
ผมไล่เปิดมาเรื่อยเปื่อยจนในที่สุดผมก็ไปสะดุดตากับตัวอย่างหนังเรื่องนี้ที่มันทั้งน่ารักและน่าสนใจ
ใช้เวลาไปสักระยะในที่สุดฟ้าก็ประทานเว็บมาให้ ผมเจอหนังเรื่องนี้ในเว็บแต่น่าเสียดายมันเป็นภาษาอังกฤษซึ่งแน่นอนคนไม่เก่งภาษาอังกฤษอย่างผมคงไม่อยากจะไปแตะต้องสักเท่าไหร่
แต่แล้วเมื่อผมกดดูตัวอย่างหนังอีกครั้งผมก็ฝืนใจกดดูหนังซับภาษาอังกฤษเรื่องนี้ When a Wolf Falls in Love with a Sheep
หรือในชื่อภาษาไทย หนุ่มช่างฝันกับสาวละเมอรัก
ผมยอมรับเลยว่ามันเป็นหนังรักเรื่องแรกที่ดูเป็นภาษาอังกฤษและเป็นหนังรักเรื่องแรกที่ผมดูไม่เข้าใจเลยสักนิด
แต่กระนั้นก็ตามพลังแห่งความรักและความสดใสของหนังยังส่งผลให้ผมยิ้มได้ยิ้มไปกับบางฉาก
ไดมีอารมณ์ร่วมไปกับฉากอารมณ์ของหนัง แม้จะอ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างกับการกระทำของตัวละคร
แต่ผมก็มีฉากประทับใจเหมือนกันนะ
ฉากสุดท้ายของหนังรักสุดน่ารักเรื่องนี้
ฉากที่ตราตรึงใจของชายผู้นี้คงหนีไม่พ้นฉากปาเครื่องบินกระดาษของเด็กนักเรียนที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง
ทุกคนถูกสื่อสารผ่านข้อความและตัวการ์ตูนหมาป่าและเจ้าแกะน้อย
“ถ้าคุณอยากเห็นหมาปา ก็ขอให้พับเครื่องบินกระดาษแล้วร่อนมันออกมา”
ในหนังแล้วอาจไม่ใช่ข้อความนี้ แต่ความรู้สีกก็คล้ายๆกัน
ผมยิ้มแก้มแทบปริกับกับฉากใหญ่ฉากนี้มันโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูกรวมถึงงดงามเสียเหลือเกิน
การตามล่าของหมาป่า
เพื่อจะหยุดยั้งการล่ำลาของแกะน้อย
โดยมีเครื่องบินกระดาษเป็นสื่อสารนำทางหัวใจ
สุดท้ายจะเป็นอย่างไรคงต้องให้ผู้อ่านไปดูเรื่อง When a Wolf Falls in Love with a Sheep
กันเอาเองนะครับ
แม้จะไม่ใช่หนังที่ฉากประทับใจมากมายแต่ก็นับได้ว่าเป็นหนังที่อุ่นใจไม่น้อยในช่วงเวลาที่ฝนพร่ำแบบนี้
พบกันใหม่บทความหน้านะครับ
0 comments:
Post a Comment